วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สเปนสอนบอลเลี่ยน 4-0 เถลิงแชมป์ยูโร

อาถรรพ์แตก!สเปนสอนบอลเลี่ยน 4-0 เถลิงแชมป์ยูโร

รีแมทช์ออกมาคนละเรื่องเมื่อ"กระทิงดุ"สเปนครองเกมบุกตลุยสอนเชิงอิตาลีสุดชิว 4-0 ป้องกันแชมป์ยูโรเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์รวมทั้งลามปามทำลายสถิติทวีปกับ 3 แชมป์เมเจอร์ในระยะเวลาเพียงแค่ 4 ปีอีกด้วย

ฟุตบอลยูโร 2012 รอบชิงชนะเลิศ

วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม 2555


สเปน 4:0 อิตาลี

ประตู
 : 1-0 ซิลบา น.14, 2-0 อัลบา น.41, 3-0 ตอร์เรส น.84, 4-0 มาต้า น.88

 "กระทิงดุ"ตามหาแชมป์ยูโรหนที่สามของพวกเขาโดยเกมนี้เป็นอีกนัดที่พวกเขาไม่ส่งกองหน้าธรรมชาติลงเลยให้ฟาเบรกัสลงมาเป็นกองหน้าแทน นอกนั้นชุดเดิมๆทั้งหมด

ด้าน"อัซซูรี่"ก็ลุ้นแชมป์ยูโรหนที่สองด้วยเช่นกันและนัดนี้ก็ได้อบาเต้ลงมาประจำการฝั่งขวาอีกครั้งนอกนั้นเหมือนเดิมทั้งหมดมีบาโลเตลลี่กับคาสซาโน่จับคู่กันเช่นเคย

ทางสเปนนั้นไม่แพ้มาติดต่อกัน 19 เกมที่เป็นทางการแล้วอีกทั้ง 9 นัดหลังสุดในรอบน็อคเอาท์ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆพวกเขายังไม่เสียประตูเลยด้วย ส่วนอิตาลีในยุคปรันเดลลี่นั้นชนะ 2 เกมจาก 8 นัดหลังสุด(ไม่นับยิงจุดโทษ)แต่ก็ยังไม่เคยแพ้เกมที่เป็นทางการเลยซักนัดเดียว

ครึ่งแรก

เปิดมาก็บุกเข้าใส่กัน
เปิดฉากมาทั้งสองทีมแลกเข้าใส่กันเลยไม่มีเกร็งอิตาลีได้ลองส่องก่อนจากปิร์โล่หน้าเขตโทษแต่บอลไม่ตรงกรอบ ส่วนสเปนเองก็ได้ลุ้นจากจังหวะเตะมุมรามอสโขกแต่ยังข้ามคาน

กระทิงชักดุ!ซาบี้ทำชิ่งมายิงข้ามคาน
นาที 10 "กระทิงดุ"ตั้งเกมบุกเป็นล่ำเป็นสันและได้โอกาสลองอีกแล้วจากบอลขึ้นหน้าไปให้กับชาซาบี้ก่อนจะฝากไปให้เชสก์หน้าเขตโทษแล้วทำชิ่งคืนกลับมาให้ชาบี้ได้กดหน้าเขตโทษแต่ก็ข้ามคานอยู่ดี

มาไว!กระทิงขึ้นเกมสวยซิลบาโขกไม่เหลือ
แล้วอีก 4 นาทีให้หลังบดอยู่นาน"กระทิง"ก็ได้ประตูขึ้นนำสมใจจนได้จากเริ่มต้นจากอิเนียสต้าที่ได้บอลตรงกลางก่อนจะจ่ายตัดแนวรับให้ฟาเบรกัสสปีดแข่งกับคิเอลลินี่เข้าเขตโทษไปเปิดบอลเข้ากลางและถึงหัวของซิลบาโขกเข้าไปประตูไปไม่มีเหลือ สเปนนำไปแล้ว 1-0

เลี่ยนชักยังไงตั้งเกมไม่ค่อยจะขึ้น
หลังจากนั้นอิตาลีก็พยายามจะทวงคืนให้ได้แต่โอกาสจังๆแทบจะไม่มีเลยแถมยังมีเล่นกันสะเปะสะปะเจอสเปนตัดบอลไปให้หวาดเสียวกันหลายช่วง อีกทั้งคิเอลลินี่ยังเจ็บโดนเปลี่ยนแล้วให้บัลซาเรตติลงสนามแทน

ขอกูบ้าง!คาสซาโน่หลุดมายิงตรงตัวอิเคร์
นาที 28 อิตาลีมีโอกาสได้ลุ้นบ้างแล้วจากจังหวะที่"กระทิง"จ่ายพลาดเจอเด รอสซี่ตัดได้และออกไปให้กับคาสซาโน่ทางซ้ายพาบอลเข้าเขตโทษก่อนจะหลอกเปิดแล้วล็อกเข้าขวาจากนั้นก็จัดการยิงทันทีแต่ยังตรงตัวกาซิญาส

อีกทีดิ!คาสซาโน่ส่องไกลอีกแต่ยังไม่ผ่าน
เริ่มจะมาแล้วสำหรับ"อัซซูรี่"ตั้งเกมบุกได้มากขึ้นและก็ได้โอกาสลองอีกครั้งจากปิร์โล่ที่ออกบอลไปให้กับคาสซาโน่ทางขวาจับบอลทีนึงแล้วเข้าทางจัดการสับด้วยขวาหน้าเขตโทษแต่กาซิญาสยังไม่หลับล้มตัวทุบออกไปได้ก่อน

ขาดผมได้ไง!โอ้ส่องไกลไม่แม่น
ยังชิงจังหวะกันอยู่แต่ช่วงท้ายครึ่งแรกแล้วอิตาลียังได้จังหวะลองยิงเยอะกว่าคราวนี้เป็นบาโลเตลลี่บ้างจากบอลออกมาทางซ้ายให้เขาแล้วลากเข้ามาทำชิ่งกับมอนโตลิโว่ก่อนจะได้ยิงไกลอีกแล้วแต่ก็ไม่แม่นยำเลยหลุดออกหลังไป

กระทิงเฉียบ!ซาบี้แทงทะลุอัลบาหลุดยิงไม่เหลือ
แต่สุดท้ายก็กลายเป็น"กระทิง"ทีได้เฮจากนาที 41 ที่พวกเขาเล่นจังหวะโต้กลับบอลออกกมาทางซ้ายให้อัลบาฝากที่ซาบี้ก่อนจะสปีดวิ่งทำทางขึ้นแล้วซาบี้ก็จ่ายทะลุให้อัลบาหลุดเข้าเขตโทษไปก่อนจะยิงผ่านมือบุฟฟ่อนเสียบเสาแรกแบบง่ายๆ สเปนนำห่างเป็น 2-0 แล้ว

มอนตี้ส่องไกลไมผ่าน
"อัซซูรี่"งานเข้าขั้นหนักต้องบุกเต็มสูบแล้วยังมาได้ลุ้นอีกซักทีก่อนจะหมดครึ่งแรกจากคาสซาโน่ที่จ่ายให้กับมอนโตลิโว่หน้าเขตโทษก่อนจะพลิกหลบไปสวยแล้วยิงแต่ก็ยังไม่ผ่านมือของกาซิญาส ก่อนจะจบเกมไปที่สเปนนำอยู่ 2-0

ครึ่งหลัง

เกือบได้ไว!ดิ นาตาเล่โขกข้ามคาน
กลับมาเริ่มครึ่งหลังอิตาลีเกือบกลับมาได้อย่างรวดเร็วหลังได้โอกาสก่อนเลยจากจังหวะที่อบาเต้หลุดมาได้เปิดริมเส้นขวาเข้าไปตรงกลางถึงหัวของดิ นาตาเล่ที่ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามมาได้โขกแต่บอลยังข้ามคานอยู่

เลี่ยนเสียวว้อย!เชสก์พริ้วเข้ามาแต่ยิงไม่เต็มเท้า
ถัดมาไม่นาน"กระทิง"ก็เกือบจะบวกลูกสามได้แลวเป็ฯจังหวะที่ฟาเบรกัสหลุดเข้าเขตโทษทางขวาก่อนจะหลอกจนบัลซาเรตติสไลด์ฟรีแล้วแตะหลบมาเองก่อนจะได้ยิงแต่ไม่ถนัดถนี่เท่าไหร่บุฟฟ่อนเลยยังล้มตัวเซฟทันก่อนโดนเตะทิ้ง

ยังไม่ได้!ดิ นาตาเล่ยิงอีกติดเซฟเช่นเคย
นาที 51 "อัซซูรี่"มีโอกาสจะได้ประตูไล่มาอีกแล้วเป็นบัลซาเรตติที่ขึ้นมาทางซ้ายก่อนจะเข้าในมาให้กับมอนโตลิโว่โชว์ลูกจ่ายคมเข้าเขตโทษให้ดิ นาตาเล่ที่ยืนไม่ล้ำหน้าได้จับแล้วยิงแต่กาซิญาสยังไวเซฟได้ บอลกลับมาที่ดิ นาตาเล่จะเปิดไปหน้าประตูก็โดนกาซิญาสรับได้

เอาเข้าไป...มอตต้าเจ็บเลี่ยนเปลี่ยนตัวครบแล้ว
อิตาลีลำบากหนักกว่าเดิมอีกหลังเปลี่ยนตัวครบสามคนแล้วแต่มอตต้าที่ลงมาใหม่ดันไปเกิดเจ็บเสียเองจนต้องโดนหามออกจากสนามไปและไม่มีที่ท่าว่าจะกลับลงมาได้

กระทิงครองบอลสบายทีน
เกมผ่านมาถึงนาที 65 แล้วสเปนเล่นกันง่ายดายกว่าเดิมมากครองบอลกันสบายทำเอาอิตาลีแทบไม่ได้บุกเลย ถ่ายออกซ้ายขวาเรื่อยแถมไม่เร่งด้วยเพราะนำห่างแล้ว

เชสก์หลุดมาเปิดเกือบได้จบ
"กระทิง"เกือบมีโอกาสได้เบิกประตูเพิ่มอีกแล้วจากเชสก์ที่ทำชิ่งเข้าเขตโทษกับเปโดรก่อนจะหลุดมาทางขวาแล้วเปิดไปเสาไกลหวังจะให้ตัวที่รออยู่แต่ยังเจอโบนุชชี่โหม่งสกัดออกไปได้

กระทิงน่าจะสาม!เปโดรยิงหลุดเหลือชื่อ+ล้ำหน้า
10 นาทีสุดท้าย"กระทิง"บุกมาต้องมีประตูที่สามของจริงจากการโต้ขึ้นมาแล้วบอลออกมาให้อิเนียสต้าทางขวาหน้าเขตโทษก่อนจะจ่ายเข้าให้อัลบาที่เติมขึ้นมาเปิดไปตรงกลางให้เปโดรยิงแต่หลุดเสาเหลือเชื่อแถมล้ำหน้าอีก

จนได้!ตอร์เรสยิงผ่านมือพี่บุฟไม่เหลือ
สุดท้าย"กระทิง"ก็ทำจนได้มาบวกลูกที่สามสำเร็จเป็นการจ่ายพลาดของเด รอสซี่เจอชาบี้วิ่งมาตัดแล้วโชว์บอลทะลุช่องสวยเข้าเขตโทษให้กับตอร์เรสหลุดไปยิงผ่านมือบุฟฟ่อนส่งบอลค่อยๆกลิ้งเสียบเสาไกลเข้าไป สเปนนำห่างเป็น 3-0

ยังไม่หมด!ตอร์เรสใจกว้างดีดให้มาต้าบวกลูกสี่
แค่นั้นยังไม่พอ"กระทิง"มาได้ประตูตอกย้ำอีกซักลูกเป็นการออกบอลจากตรงกลางโดยบุสเกสต์ขึ้นมาให้กับตอร์เรสไม่ล้ำหน้าหลุดเข้าเขตโทษไปก่อนจะโชว์ความใจกว้างยิ่งกว่ามหาสมุทรดีดกลับมาให้มาต้าที่เพิ่งลงมาหยกๆยิงเข้าไปแบบง่ายๆ สเปนนำ 4-0

จบเกมสเปนก็โชว์ความสุดยอดเอาชนะอิตาลี 2-0 คว้าแชมป์ยูโรหนที่สามของประเทศพร้อมกับป้องกันแชมป์ยูโรได้เป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ด้วยอีกทั้งยังเป็นถ้วยที่สามของพวกเขาในรอบ 4 ปีอีกต่างหาก

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

สเปน
 : อิเคร์ กาซิญาส 7.5, เกราร์ด ปิเก้ 7.5, แซร์คิโอ รามอส 7.5, อัลบาโร่ อาร์เบลัว 7, ฆอร์ดี้ อัลบา 8, ซาบี้ เอร์นานเดซ 8.5, ซาบี้ อลอนโซ่ 7.5, แซร์คิโอ้ บุสเกตส์ 7.5, อันเดรส อิเนียสต้า 8.5*(มาต้า น.86, N/A), เชสก์ ฟาเบรกัส 7.5 (ตอร์เรส น.75, 8), ดาบิด ซิลบา 8 (เปโดร น.59, 7)

สำรองไม่ได้ลงสนาม : บิคตอร์ บัลเดส, เปเป้ เรน่า, ราอูล อัลบิโอล, ฆาบี้ มาร์ติเนซ, ฟรานซิสโก้ ฆวนฟราน, ซานติ กาซอร์ล่า, เฆซุส นาบาส, อัลบาโร่ เนเกรโด้, เฟร์นานโด ญอเรนเต้

อิตาลี : จานลุยจิ บุฟฟ่อน 6.5, จอร์จิโอ้ คิเอลลินี่ 5.5 (บัลซาเรตติ น.21, 6), อิกนาซิโอ้ อบาเต้ 6.5, อันเรีย บาร์ซาญี่, 5, เลโอนาร์โด โบนุชชี่ 6, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ้ 5.5, ดานิเอเล่ เด รอสซ่ 6.5, ริคาร์โด้ มอนโตลิโว่ 5.5 (มอตต้า น.56, N/A), อันเดรีย ปิร์โล่ 6.5, มาริโอ บาโลเตลลี่ 6, อันโตนิโอ คาสซาโน่ 6.5(ดิ นาตาเล่ น.45, 6)

สำรองไม่ได้ลงสนาม : ซัลวาตอเร่ ซิริกู, มอร์แกน เดอ ซานติส, คริสเตียน มาจโจ้, อันเจโล่ อ๊อกบอนน่า, เซบาสเตียน โจวินโก้, อันโตนิโอ โนเชริโน่, เอ็มมานูเอล ชักเครินี่, ฟาบิโอ บอรินี่, อเลสซานโดร เดียมานติ
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น